03 มกราคม 2553

ชาวแม่ทอมกับการศึกษา

เมื่อครั้งที่แม่ทอมยังไม่มีโรงเรียน หากใครอยากจะเรียนหนังสือก็ต้องข้ามคลองไปเรียนที่โคกคาซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของคลองอู่ตะเภา โรงเรียนตั้งอยู่ใกล้ๆกับเปลวโคกคา โรงเรียนที่ว่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรงเรียนคูเต่าวิทยาที่เห็นอยู่ในปัจจุบันซึ่งเพิ่งมาสร้างเมื่อประมาณปีพ.ศ.๒๕๒๗ โรงเรียนโคกคาเป็นโรงเรียนแห่งแรกในละแวกนี้ประมาณกันว่ามีการเรียนการสอนอยู่ในช่วงปีพ.ศ.๒๔๕๐ มีครูเพียงคนเดียวชื่อครูครุฑ เป็นที่เรียนของคนที่มาเป็นครูรุ่นแรกของโรงเรียนวัดซึ่งเกิดขึ้นในระยะต่อมา ในจำนวนนี้มีครูหิ้นหรือครูนพ ครูอินทอง ครูเห้งหรือครูทวีป เป็นต้น

แม่ทอมเมื่อ๑๐๐ปีก่อนคือดินแดนที่ห่างไกลความเจริญ คนที่ยินยอมและส่งเสียให้ลูกได้เรียนเกินชั้นประถมปี่ที่๔สมัยโน้นคือคนที่มีหัวก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจริงๆแล้วมีอยูแค่สองท่าน คือท่านทวดเนี่ยวแม่ของกำนันรุยซึ่งเป็นย่าของครูอินทองและท่านทวดแก้วแม่ของครูนพและครูเห้ง ทั้งสองเป็นลูกสาวชาวจีนอพยพที่คงจะได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบรุษที่อพยพมาจากเมืองจีนให้เห็นถึงประโยชน์ของการศึกษา ซึ่งจากการบอกเล่าสืบต่อกันมา ผู้เป็นบิดาซึ่งเป็นคนจีนอพยพของทั้งสองตระกูลนี้มีการศึกษาเป็นอย่างดีมาจากเมืองจีน แต่ท่านทวดเนี่ยวเพิ่งได้มาสนับสนุนการศึกษาเอากับหลานแทนที่จะเป็นลูก ทั้งนี้อาจะเป็นเพราะเหตุผลและอุปสรรคต่างๆ การศึกษาขั้นต่อมาจากป.๔ในสมัยนั้นก็คือม.๑ ซึ่งมีที่เรียนอยู่ที่เดียวในขณะนั้นคือโรงเรียนมหาวชิราวุธซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองจังหวัดสงขลาและเปิดทำการสอนมาตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๔๓๙ ในขณะนั้นยังไม่มีโรงเรียนประจำอำเภอหาดใหญ่หรือโรงเรียนมอชาย ซึ่งเพิ่งมาเปิดสอนเอาเมื่อปีพ.ศ.๒๔๘๘ การจะส่งลูกส่งหลานไปเรียนที่บ่อยางหรือสงขลาอันเป็นที่ตั้งของโรงเรียนมหาวชิราวุธนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยสำหรับชาวแม่ทอม ไหนจะเรื่องการเดินทาง ไหนจะเรื่องที่พักอาศัยและคนดูแลสำหรับเด็กอายุแค่๑๐ขวบ ไหนจะเรื่องอาหารการกิน เหตุการประจวบเหมาะที่ทำให้ความเป็นไปได้มีขึ้นและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนแม่ทอมอีกมากมายในยุคถัดมา ลูกชายคนโตของท่านทวดแก้วซึ่งมีชื่อว่าหอมได้บวชเป็นพระภิกษุและได้ไปจะพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในตำบลบ่อยาง(ชื่อที่ใครๆเรียกตัวเมืองสงขลาสมัยก่อน) ทั้งครูนพ ครูอินทองและครูเห้งจึงได้ไปเป็นเด็กวัดอาศัยอยู่กับหลวงหอมและเรียนชั้นมัธยมที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ ด้วยความวิริยะอุตสาหะ ท่านทั้งสามสามารถที่จะเรียนจนจบชั้นมัธยมและใช้เป็นพื้นฐานในการในการสอบวิชาครู ในขณะที่ครูนพและครูเห้งกลับมาเป็นครูอยู่ที่แม่ทอม ครูอินทองปักหลักอยู่ที่บ่อยางสอนอยู่ที่โรงเรียนช่างไม้หรือที่กลายมาเป็นวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ในยุคต่อมา ครูอินทองนับเป็นปูชณียบุคคลที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงของแม่ทอมท่านหนึ่ง ถึงแม้ว่าท่านจะไม่ได้เป็นครูสอนที่แม่ทอมก็ตาม การที่ท่านได้ปักหลักอยูที่บ่อยาง ทำให้ชาวแม่ทอมอีกกลุ่มหนึ่งได้มีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียน เช่นครูเพิ่มซึ่งเป็นน้องชายและได้กลับมาเป็นครูที่แม่ทอม บ้านพักครูอินทองที่โรงเรียนช่างไม้ได้กลายเป็นที่พักพิงของชาวแม่ทอมอีกนับสิบคนในยุคถัดมา ทั้งที่เป็นญาติและชาวแม่ทอมอื่นๆที่หาที่อยู่ไม่ได้ ในจำนวนนี้มีครูสมพิณและครูหลุบซึ่งในปัจจุบันเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนบ้านแม่ทอมรวมอยู่ด้วย

ประมาณปีพ.ศ. ๒๔๙๐ ความสำเร็จทางด้านการศึกษาของคนแม่ทอมรุ่นครูนพ ครูเห้งและ ครูอินทองใด้ทำให้ชาวแม่ทอมส่วนหนึ่งตื่นตัวและขวนขวายให้ลูกๆได้เล่าเรียนกันมากขึ้น เช่นนายชื่นบ้านหัวนอนวัดได้ส่งลูกชายไปเรียนที่โรงเรียนมอชายหาดใหญ่และต่อวิทยาลัยครูสงขลา คือท่านอาจารย์วัน ส่วนนายเกลี้ยงซึ่งเป็นน้องเขยของครูอินทองก็ส่งลูกๆไปเรียนหมดทุกคน ความตื่นตัวได้แพร่ขยายออกไปทั่วทั้งตำบล มีบางคนที่สร้างชื่อระดับจังหวัดและประเทศเช่นสุนทร ลัภกิตตโร ซึ่งเป็นลูกชายครูอิ้นบ้านนารังนก จากนั้นมาแทบทุกบ้านส่งลูกไปเรียนต่อในเมือง หลังจากปีพ.ศ.๒๕๒๐ แม่ทอมเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเมืองเพราะการคมนาคมพัฒนาขึ้นมาก รวมทั้งชาวแม่ทอมมีรายได้ดีขึ้น ที่นั่งในสถานศึกษาระดับสูงทั้งในพื้นที่และส่วนกลางมีมากขึ้น ครูรุ่นก่อนๆก็มีโอกาสได้เรียนเพิ่มเติมและยกระดับวิทยฐานะให้กับตัวเอง จำนวนคนที่เรียนจบขั้นอนุปริญญา ปริญญาตรี และที่สูงกว่าจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ปีใหม่๒๕๕๓เพิ่งผ่านไปหมาดๆ ชาวแม่ทอมได้ให้ความสำคัญต่อการศึกษามากขึ้นเป็นทวีคูณ การแข่งขันอย่างสุดขีดกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการเล่าเรียนของเด็กๆที่พ่อแม่มีความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะให้ลูกๆของตัวเองอยู่ข้างหน้าคนอื่น หรืออย่างน้อยเกาะกลุ่มเด็กในเมืองได้ ชาวแม่ทอมส่วนหนึ่งไม่มีความเชื่อมั่นในระบบการศึกษาของชุมชน แทนที่จะให้ลูกเรียนที่โรงเรียนของท้องถิ่น เขาเหล่านั้นลงทุนนำลูกไปเรียนที่โรงเรียนเอกชนในหาดใหญ่ซึ่งค่าเรียนแสนที่จะแพง แต่ถึงจะแพงแค่ไหนคนเป้นพ่อเป็นแม่ก็ไม่เคยย่อท้อ ทั้งเรียนธรรมดาและเรียนพิเศษ นอกจากชาวบ้านทั่วไปแล้วที่ไม่มีความเชื่อมั่นในโรงเรียนประจำหมู่บ้าน คนเป็นครูเองก็ขาดความเชื่อถือในวิชาความรู้และความสามารถของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ครูยุ่งครูคนหนึ่งของโรงเรียนบ้านแม่ทอมต้องขับรถเอาลูกตัวเองไปส่งที่โรงเรียนพลฯในหาดใหญ่ทุกๆเช้าก่อนที่จะกลับมาสอนลูกคนอื่นที่โรงเรียนบ้านแม่ทอม เป็นที่น่าสังเกตุว่าอัตราส่วนโดยเฉลี่ยครูต่อนักเรียนที่แม่ทอมคือครู๑คนต่อนักเรียน ๖คน ในขณะที่โรงเรียนในหาดใหญ่ซึ่งชาวแม่ทอมมีความเชื่อมั่นและฝากความหวังไว้และต้องจ่ายหลายหมื่นบาทต่อปี ต่อครู๑คนจะมีนักเรียนอยู่๕๐คน สงสัยจริงๆว่าครูในหาดใหญ่มีความสามารถจริงๆ หรือเป็นแค่ความเชื่อในทำนองที่ว่าข้าวในนาคนอื่นมักจะดูเขียวกว่าข้าวในนาของเราเสมอ

6 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ4/1/53 08:49

    บังครับนับได้ว่าครูอินทองมีพระคุณกับหลายๆท่านถ้าไม่มีท่านในวันโน้นก็คงไม่มีหลายๆท่านในวันนี้เป็นโอกาสดีแล้วครับที่จะได้ตอบแทนพระคุณของท่านบ้างวันที่13-14มกราคมที่จะถึงนี้หลานชายของท่านน้องหนึ่งบุตรชายของคุณ อร่าม กุลนิลจะเข้าพิธีมงคลสมรสก็ขอให้ญาติพี่น้องของท่านหรือท่านที่ได้รับการอุปการะจากคุณครูอินทองได้มีโอกาสตอบแทนบุญคุณของท่านถึงจะไม่ไช่ทางตรงแต่เป็นทางอ้อมก็ยังดี...ช่วยงานกันให้เต็มที่ทุกคนครับ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ12/1/53 15:27

    ตามที่ได้ข่าวมาไครกันครับที่ส่งไปเรียนหนังสือทางเรือ
    คนไปส่งยังไม่กลับถึงบ้านคนถูกส่งกลับมาทางรถเสียแล้ว
    ..ส่งทางทางเรือกลับทางรถ...ใครกันเอ่ยครูสมพิณหรือ
    ครูหลุบช่วยเฉลยที

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ14/1/53 19:12

    บ้งเรียนจบจากที่ไหนคับ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ19/1/53 01:43

    พูดถึงเรื่องการศึกษา อย่าโทษครู โทษโรงเรียนเลย ให้โทษพ่อแม่ของเด็กดีกว่า ผมว่าเด็กจะดี จะเก่งไม่เก่งอยู่ที่พ่อแม่ให้ความสนใจ อบรมสั่งสอน ให้เขาเดินในทางที่ถูกหรือไม่ เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกหรือเปล่า ถ้าพ่อสูบบุหรี่ กินเหล้า กินน้ำตาลเมา เล่นการพนัน จะสอนให้ลูกอย่างไรไม่ให้เป็นอย่างพ่อ ผมก็เป็นคนแม่ทอม เรียนก็เรียนที่วัดคูเต่า (โรงเรียนบ้านแม่ทอม)จบก็ไปต่อที่โคกคา เสร็จก็ไปต่อ หาดใหญ่ เสร็จก็ไป กทม.(สุ้คนอื่นได้หมดไม่ว่าเขาจบจากที่ไหนมา) ปัจจุบันก็ได้ทำงาน (ที่ผมคิดว่าดีแล้ว) ซึ่งครูที่สอนผม ก็ครูวัน ครูจิน ครูสมพิน ครูรมย์ ครูละเมียด ฯลฯ แต่คนที่ปลูกฝังให้รักการเรียน สนใจเรียน เพื่ออนาคต คือ พ่อแม่ผม ซึ่งพี่น้องผมเรียนจบปริญญาตรีเกือบทุกคน มีงานทำ ไม่เป็นภาระของสังคม อย่าโทษโรงเรียนและครูเลย (เห็นใจครู)

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ19/1/53 09:42

    ตามที่ได้ข่าวมาไครกันครับที่ส่งไปเรียนหนังสือทางเรือ
    คนไปส่งยังไม่กลับถึงบ้านคนถูกส่งกลับมาทางรถเสียแล้ว
    ..ส่งทางทางเรือกลับทางรถ...ใครกันเอ่ยครูสมพิณหรือ
    ครูหลุบช่วยเฉลยที>--->น่าจะเป็นพ่อของผู้กองท่อน หรือไม่ก็เป็นอาจารย์เสือลอย

    ++++++++++++++++++++++++++++
    บ้งเรียนจบจากที่ไหนคับ>----> เห็นแกบอกในเว็บแม่ทอมว่าแกจบมาสูงกว่าใครๆในแม่ทอม เพราะแกเรียนบนยอดตาลโตนด ที่จบสูงพอๆกันก็คือหลวงเปรียวบ้านหัวนอนวัด

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ19/1/53 10:39

    บังเหล็มเรียนจบจากโรงเรียนปอเนาะท่าหาด

    ตอบลบ