30 พฤศจิกายน 2552

เสือลอย

เสือลอยคือชื่อฉายาที่เพื่อนๆและชาวบ้านตั้งให้ จริงๆแล้วหลวงลอยเป็นคนดีคนหนี่งของหมู่บ้าน มีจิตใจโอบอ้อมอารีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ขันอาสางานหนักทุกชนิดแล้วแต่ใครจะออกปากตั้งแต่ตักน้ำขุดดินขึ้นหมากขึ้นมะพร้าวและฯลฯ หลวงลอยเป็นลูกชายคนสุดท้องของป้าเอียดหรือสถานีวิทยุวปถ๖แม่ทอม บ้านป้าเอียดอยู่ติดกับโรงสีข้าวประจำหมู่บ้านซึ่งอยู่ริมคลอง เด็กชายลอยมักจะขโมยน้ำมันจาระบีที่โรงสีมาทาหัว เพราะคิดว่ามันใช้แทนมันใส่ตันโจที่หนุ่มๆยุคนั้นนิยมไดั้ โดยทั่วไปใครๆก็ชอบแก

ที่มาของคำว่าเสือคงจะสืบเนื่องมาจากความคนองผสมกับความหิวเสียมากกว่า จะขโมยบ้างก็คงจะเป็นผลหมากรากไม้ในสวนบ้านนั้นบ้านนี้ซึ่งไม่มีอะไรมากไปกว่ากินจนอิ่มแล้วก็หมดกัน ที่หนักกว่านั้นและเป็นที่เล่าลือกันอยู่พักหนึ่ง คือเรื่องไอ้เสือทอมมีผ้าคลุมหน้าเป็นไอ้โม่งปล้นเจ๊กยิ่ว จีนจากหาดใหญ่ที่ถีบจักรยานบรรทุกไอสครีมแท่งหรือน้ำแข็งบอกเข้ามาขายในหมู่บ้าน สมัยนั้นถนนยังเป็นถนนดิน ยุคก่อนที่จะมีถนนลูกรังเสียอีก ราวๆเที่ยงเจ๊กยิ่วจะมาถึงหมู่บ้านและสั่นกระดิ่งเป็นสัญญานว่าน้ำเข็งบอกมาแล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่จะขายได้สักกี่อันเพราะเด็กๆไม่ค่อยจะมีสตางค์ซื้อกินทั้งๆที่ราคาแค่แท่งละสลึง ประมาณว่าจากนางนกถึงวัดคูเต่าถ้าขายได้เกิน๑๐แท่งแล้วเป็นอันว่าเจ๊กยิ่วเฮงอย่างสุดๆในวันนั้น บางคราวเด็กๆได้เหรียญสลึงมาก็ตั้งหน้าตั้งตาคอยเจ๊กยิ่ว แกไม่ได้มาทุกวัน แกมารายสะดวก จึงไม่มีใครรู้ล่วงหน้า หลวงเพียรมักจะเอากระดิ่งผูกคอวัวมาเดินสั่นตามถนนหลอกให้เด็กได้วิ่งออกดูมาคิดว่าเป็นรถน้ำแข็งบอกกันอยู่เนืองๆ

หลวงลอยและหนุ่มๆในหมู่บ้านนับถือหลวงเพียรมาก ยกย่องให้เป็นอาจารย์ เพราะหลวงเพียรมีความรู้กว้างขวาง จู่ๆวันหนึ่งเจ๊กยิ่วไปแจ้งกำนันว่าได้ถูกโจรซึ่งคลุมหัวด้วยผ้าซักน้ำ(ผ้าขาวม้า) โผล่แต่ตาใช้มีดปาดตาลจี้ให้เข็นรถเข้าไปในป่าสาคูหลังหลาทอม พอเข้าไปในดงสาคูก็โดนมัดมือเอาผ้าปิดตาและปิดปาก ได้ยินคนหลายคนออกมากินน้ำแข็งบอกกัน กินกันอยู่หลายชั่วโมงจนน้ำแข็งบอกเกือบหมดถังแต่ไม่แตะต้องเงินและทร้พย์สินอย่างอื่น เมื่อกินเสร็จก็ไล่เจ๊กยิ่วเข็นจักรยานกลับขึ้นไปบนถนน ไม่มีโอกาสเห็นว่ามีใครบ้าง กำนันก็รับปากว่าจะสืบหาตัวคนร้ายมาจัดการให้ เมื่อข่าวแพร่ออกไป ชาวบ้านก็วิภากษ์วิจารณ์กันด้วยความขบขันเรื่องโจรอุกน้ำแข็งบอก หลายคนพอจะเดาได้ว่ามีใครบ้าง แต่ก็ไม่มีใครออกชื่อ กำนันก็ได้แต่รับปากให้มันพ้นๆไป ในกาลต่อมาบรรดาผู้ร่วมขบวนการก็ออกมานินทากันเองว่าใครกินน้ำแข็งบอกจนอ๊วกในวันนั้น

พออายุครบบวด ป้าเอียดก็จัดงานบวชนาคให้ลูกชายอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งๆที่แกแทบจะไม่มีเงินกะเขา ล้มวัวหลายตัว รับเครื่องไฟท่านเซี่ยฉลองกันอึกทึกครึกโครมสามวันสามคืน ชาวบ้านข้างเคียงมาช่วยงานกลับพร้อมเหล็กขูดทุกบ้าน ด้วยความที่เพื่อนมากเจ้านาคลอยเมาตลอดงาน จนกระทั่งวันบวชก็ยังโงนเงนไม่รู้เรื่องรู้ราว มีพิธีกรรมหลายอย่างในการบวชที่ต้องทำอย่างถูกต้อง การบวชจึงจะสมบูรณ์ เช่นมีการถามตอบเป็นภาษาบาลีว่า "มนุสโสสิ" ซึ่งแปลว่า"ท่านเป็นมนุษย์"ใช่ไหม?"นาคก็ต้องตอบว่า"อามะภันเต"ซึ่งแปลว่า "ครับ ผมเป็นมนุย์" ส่วนคำถามไหนที่ต้องตอบว่าไม่ก็ต้องตอบว่า"นัตถิ ภันเต" คำขานนาค จะมีการฝึกซ้อมกันอย่างดีก่อนเข้าโบสถ์ทำพิธี ถึงแม้ว่าจะมึนๆทุกอย่างก็เป็นไปตามปกติจนกระทั่งพระถามด้วยสำเนียงเสียงดังฟังชัดทุ้มกระหึ่มโบสถ์ตามปกติ ช้าๆเนิบๆว่า...กุฏถัง..ซึ่งแปลว่า "คุณเป็นโรคขี้เรื้อนไหม" โรคเรื้อนเป็นโรคติดต่อร้ายแรงตั้งแต่สมัยพุทธกาล บวชไม่ได้ตามพระวินัย นาคลอยก็ตอบด้วยความมั่นใจ "อามะภันเต" พระกรรมวาจาจึงถามซ้ำอีก....กุฏถัง..นาคลอยก็ยังคงตอบว่า "อามะภันเต" ถามอีกหลายครั้งก็ยังตอบเหมือนเดิม

กำลังจะเสียพิธีนาคลอยก็หันไปทางที่หลวงเพียรนั่งอยู่ ส่งภาษาใบ้ขอความเห็น หลวงเพียรจึงพยักหน้า นาคลอยจึงค่อยๆอ้อมแอ้มตอบว่า .."นัตถิ ภันเต"..เพิ่งมารู้กันทีหลังว่ามีการสอนขานนาคกันในงานเลี้ยง หลวงเพียรแกล้งนาคลอยโดยการสอนให้ขานว่า.. "อามะภันเต" หากพระกรรมวาจาถามว่ากุฎถัง เพราะกุฏถังแปลว่าจะนอนในกุฎิไหมหลังจากบวชแล้ว

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ30/11/52 11:21

    พูดถึงเสือลอยก็ให้นึกสงสารแกตอนที่แกจะตายวันนั้นแกเอาเรือหลวงเชือนข้ามไปท่าออกเรือรั่วด้วยหลวงเชือนเตือนแล้วแกไม่ฟัง หลวงเชือนบอกว่าเสือที่อยู่บ้านโล๊ะซึ่งเป็นคู่อริหลุดจากหลาง(ตะราง)มาแล้ว แกก็จะไปของแกให้จงได้ก็เลยโดนเสือบ้านโล๊ะยิงตาย พูดถึงวีรกรรมของเสือลอยอีกอย่างหนึ่งมีการนัดกินหวากกันที่บ้านร้างซึ่งเป็นบ้านหลวงราย ซึ่งบ้านร้างนี้อยู่ใกล้กับบ้านหลวงเพียร..หลวงเพียรแกบอกว่ายังขาดกับแกล้มเสือลอยก็บอกว่าเรื่องกับแกล้มไม่ต้องเป็นห่วงผมเห็นไว้แล้วคล้ายๆกับต้องการเอาใจลูกพี่ประมาณนั้น พอรุ่งเช้าได้ผลเสือลอยพากับแกล้มมาจริงเป็นไก่สองตัวก็ทำต้มกินกันกับหวากพอกินกันเสร็จมารู้ตอนหลังไก่ที่เสือลอยพามานั้นเสือลอยลักมาแต่ไม่ใช่ไก่ของใครเสือลอยดันลักเอาไก่ของพี่ของหลวงเพียรซึ่งบ้านเสือลอยอยู่ใกล้ๆกับบ้านของพี่ของหลวงเพียรเสือลอยถูกหลวงเพียรต่อว่าอย่างแรงเกือบถูกถีบไป เสือลอยได้แต่หัวเราะ แหะ แหะ น่าเสือลอยคงคิดว่าถ้าผิดก็ผิดกันทั้งหมดเพราะทุกคนก็ได้กินด้วยกันกินของโจรด้วยกัน(ถ้าเป็นสมัยนี้เขาคงบอกว่ารับกินของโจร)

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ30/11/52 11:25

    พูดถึงเสือลอยสมัยก่อนเหมือนกับเสือหมัดในยุคสมัยนี้เสือหมัดนี้เป็นบุตรของเสืออ้อมหลานลุงแก้ววีรกรรมของเสือหมัดก็คล้ายๆกับวีรกรรมของเสือลอยแต่เปลี่ยนจากเจ็กยิ่วที่ขายน้ำแข็งบอกเป็นอาบังขายโรตีอาบังขายโรตีไม่มีกระดิ่งเหมือนเจ๊กยิ่วแต่อาบังมีแตรลมบีบแล้วดัง..ปุ๊นๆๆเสือหมัดพอได้ยินเสียงนี้ก้เข้าไปสั่งโรตีเลย..พ่อค้าเอาโรตีห้าแผ่นใส่ไข่ทั้งหมด พอพ่อค้าทำโรตีทำเสร็จเสือหมัดก็ให้ตังส์แล้วก็รับโรตีแล้วก็วิ่งหน้าตั้งเลยพ่อค้าโรตีก็ตะโกนบอกว่า บาว บาวมาเอาเบี้ยทอนก่อน เสือหมัดพอได้ยินเสียงนี้ก้เพิ่มสปีดความเร็วจากเกียร์สี่เป็นเกียร์ห้าทันที เบี้ยทอนเบี้ยไหลก็ไม่เอาแล้ว เพราะว่าตังส์ที่เสือหมัดให้พ่อค้านั้นเป็นเบี้ยใบห้าร้อยปลอม เป็นเบี้ยใบห้าร้อยซุปเปอร์แมนที่เขาแถมมากับหนุมก่อเพื่อใช้ทำเบี้ยขวัญถุง หลังจากวันนั้นพ่อค้าโรตีก็ไม่มาขายอีกเลยโดนเอาโรตีใส่ไข่ห้าแผ่น..วีรกรรมของเสือหมัดมีอีกมากคล้ายๆกับเสือลอยแต่ทั้งคู่ได้ถึงแก่กรรมหมดแล้ว เสือลอยถูกยิง เสือหมัดพลัดนั่งร้าน

    ตอบลบ