16 ตุลาคม 2554

แม่ทอมจากวันนั้นจนถึงวันนี้


สังคมมนุษย์ไม่เคยมีความยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในโลกกลมๆแต่เบี้ยวใบนี้ ผู้มีอำนาจเอารัดเอาเปรียบผู้ที่ด้อยกว่า คนแข็งแรงเอาเปรียบคนอ่อนแอทั้งกดทั้งขี่จนขี้เล็ด คนฉลาดก็เอาเปรียบคนโง่ ส่วนพวกที่มีสติปัญญาเหนือกว่าปกติชนมักจะค้นพบสุดยอดแห่งสัจจธรรมแล้วหลีกเร้นไม่ข้องแวะกับความขัดแย้งใดๆในสังคมอีกต่อไป สังคมมนุษย์จึงวนเวียนอยู่ในวัฏจักรเดิมซึ่งขับดันโดยความโลภและคนโลภ จะเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็เพียงแต่รูปแบบที่พัฒนาไปตามเหตุและปัจจัยชนิดใหม่

ในครั้งโบราณกาล ผู้มีอำนาจใช้กำลังและอาวุธในการปกครองและสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองและพวกพ้อง ภายใต้การขู่เข็ญบังคับ ผู้ที่ด้อยกว่าต้องทำตามทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ เหล่าผู้นำก่อสงครามต่อกันและกันก็เพียงเพื่อผลประโยชน์ต่อตัวเอง คนส่วนใหญ่ถูกดึงเข้าร่วมด้วยวิธีการต่างๆตั้งแต่การบังคับ สร้างความหลงในตัวผู้นำ การแบ่งพรรคแบ่งพวกทำนองเดียวกับการมอมหน้าไก่ให้ตีกัน ไปจนถึงปลุกความแตกต่างในเชื้อชาติศาสนารวมทั้งสร้างความงมงายต่างๆขึ้นแล้วใช้ให้เป็นประโยชน์ทางการทหารและการเมือง

ในยุคปัจจุบัน การขู่เข็ญบังคับให้คนส่วนใหญ่ทำในสิ่งที่ผู้นำต้องการได้ลดน้อยลงไปมาก อันเป็นผลมาจากวิวัฒนาการของสังคมในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยอย่างอื่นที่กล่าวถึงข้างต้นยังมีอยู่อย่างพร้อมมูล คนจำนวนมากยังคงหลงในตัวผู้นำ ยังคลั่งชาติ ยังแบ่งพรรคแบ่งพวก ยังเข้าไม่ถึงตัวแท้ของศาสนาและยังโง่งมงาย ความโกลาหลวุ่นวายในสังคมโลกจึงยังไม่ได้ลดลงมากนัก ถึงแม้ว่าการขู่เข็ญบังคับด้วยกำลังของใครคนใดคนหนึ่งจะไม่ได้รับการยอมรับอีกต่อไปในสังคมโลก ลักษณะการบังคับดังกล่าวที่ส่งผลได้ในลักษณะคล้ายๆกันนั้นถูกทดแทนด้วยกลไกทางเศรษฐกิจและสังคมอันใหม่ที่มีความลึกซึ้งยากที่จะมองเห็น นั่นคือเงื่อนไขและปัจจัยในการอยู่รอดของคนส่วนใหญ่ในสังคมยุคปัจจุบัน...ค่าผ่อนบ้าน ค่างวดรถ ค่าเล่าเรียนลูก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ค่าโทรศัพท์มือถือและค่าฯลฯ ทุกอย่างรวมแล้ว คนระดับล่างและระดับกลางๆต้องทำงานรับใช้คนคนหยิบมือเดียวที่นั่งอยู่บนยอดปิระมิดไปจนตาย นี่คือสภาพรวมที่เป็นจริงทุกหนทุกแห่งในโลกทุกวันนี้

หากว่าจะย้อนเวลาไปสัก๕๐ปี ถึงแม้ว่า๕๐ปีเป็นเพียงแค่ชั่วขณะจิตหนึ่งเมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษยชาติ แต่เมื่อ๕๐ที่แล้วแม่ทอมยังเป็นตำบลที่ห่างไกลกันดารจากความเปลี่ยนแปลงแทบทุกอย่างในโลกภายนอก ชาวบ้านยังใช้ชีวิตแบบเดียวกันกับที่เคยเป็นมาหลายชั่วอายุคน ใช้น้ำคลองและน้ำทอมในชีวิตประจำวัน อยู่บ้านที่ทำเอาง่ายๆจากวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น ไม่มีห้องน้ำห้องส้วม ไม่มีไฟฟ้า ใช้ไม้ฟืนที่หาได้ในพื้นที่สำหรับหุงต้ม ว่าไปแล้วก็มียังไม่ครบครึ่งแม้กระทั่งปัจจัย๔ในการดำรงชีวิต การเพาะปลูกก็ทำกันแต่พอกิน ไม่มีเครื่องทุ่นแรงใดๆ อาศัยแรงกล้ามเนื้อจากคนและวัวควายเป็นหลัก การคมนาคมกับโลกภายนอกก็อาศัยเรือในคลองอู่ตะเภา ทั้งที่ขึ้นไปเหนือน้ำสู่เมืองหาดใหญ่ และออกไปยังทะเลสาบสู่เมืองสงขลาและทะเลหลวง ถนนยังอยู่ในสภาพเหมือนกับคันนา ปีหนึ่งๆจะมีรถยนต์เข้ามาถึงไม่เกินสามคัน และต้องเข้ามาพร้อมๆกับคนจำนวนหนึ่งสำหรับช่วยลากและเข็นรถเวลาติดหล่ม บางคันติดอยู่ถึงสองสามวันกว่าจะฉุดขึ้นมาได้ ความกันดารทำให้ระยะทางไม่กี่กิโลเมตรระหว่างแม่ทอมและหาดใหญ่ในอดีตเป็นเสมือนระยะทางเป็นร้อยๆกิโลเมตร แม่ทอมจึงคงสภาพเดิมๆเอาไว้ได้จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขนานใหญ่ของเมืองไทยเริ่มจากปีพ.ศ.๒๕๑๖

การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในส่วนกลางทำให้มีการกระจายการพัฒนาประเทศออกสู่ชนบทมากขึ้น ตั้งแต่ในสมัยเงินผันของท่านคึกฤทธิ์ ถนนหนทางจากเมืองสู่แม่ทอมจึงได้รับการปรับปรุงบูรณะจนสามารถใช้เป็นทางสัญจรโดยรถยนต์ได้ ความห่างไกลกันดารในอดีตจึงค่อยๆลดน้อยลงไป มีการพัฒนาพื้นที่ริมทะเลสาบเช่นหาดหอยและแหลมโพธิ์เป็นรีสอร์ทและและสถานที่ท่องเที่ยว แม่ทอมจึงกลายเป็นทางผ่าน ไฟฟ้าและสายโทรศัพท์จึงเข้ามาในหมู่บ้าน เมื่อมีบริการก็มีคนใช้เพราะเป็นความสะดวกสบาย มีไฟฟ้าก็ต้องมีอุปกรณ์ไฟฟ้า สาธารณูปโภคสมัยใหม่ที่มากับถนนนั้นไม่ใช่บริการให้ฟรี ปัญหาจึงเกิดขึ้นเพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีงานประจำทำที่จะได้เงินมาใช้จ่าย การเปลี่ยนแปลงอย่างปุบปับได้ก่อให้เกิดปัญหาเรื่องค่าครองชีพ หนุ่มสาวส่วนหนึ่งจึงต้องเข้าไปหางานทำในเมือง บรรดาผู้ประกอบการและโรงงานต่างๆที่ต้องการแรงงานราคาถูกจึงเกิดขึ้นมากมาย และท้ายที่สุด ชาวแม่ทอมก็เลิกทำนา ปล่อยให้ที่นารกร้างว่างเปล่าและอาศัยค่าแรงจากการเป็นลูกจ้างในภาคอุตสาหกรรมมาซื้อข้าวสารและปัจจัยอื่นๆในการใช้ชีวิตแทน ในที่สุดเช่นเดียวกันกับผู้ยากไร้ในส่วนอื่นของโลก ชาวแม่ทอมก็ตกอยู่ภายใต้พันธนาการของกลไกแห่งสังคมสมัยใหม่เหมือนที่กล่าวข้างต้น ที่ต้องแก่งแย่งแสวงหาให้ได้อยู่อย่างเทียมหน้าเทียมตาคนรอบข้าง ทั้งนี้ก็ยังมีชาวแม่ทอมอีกจำนวนหนึ่งที่ยังประกอบอาชีพกสิกรรมเช่นทำสวนยางและเลี้ยงสัตว์ หรืออีกส่วนหนึ่งที่เป็นข้าราชการแต่ก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับที่ไปเป็นลูกจ้าง คือการใช้เงินเกินรายได้และมีหนี้สิน และยิ่งมีหนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดิ้นไม่หลุด เป็นหลักประกันว่าจะต้องกลายเป็นทาสรับใช้ให้กับกลุ่มคนที่นั่งอยู่บนยอดปิระมิดของเศรษฐกิจทุนนิยมตลอดไป ทาสรับใช้สมัยใหม่ที่มองไม่เห็นคนที่เป็นนายและโซ่ตรวนเครื่องพันธนาการ...

...แต่ก็ยังมีชาวแม่ทอมอีกหลายๆคนเอาที่สวนที่นาเล็กๆน้อยๆที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ หรือไม่ก็ตำแหน่งงานไปเป็นประกันเพื่อกู้ยืมเงินมาซื้อรถกระบะสำหรับขับไปขับมา ช็อปปิ้งคาร์ฟูร์บิ๊กซี มีทีวีจอแบนขนาดหกสิบนิ้วพร้อมทั้งจานดำจานแดง และฯลฯที่สนองความอยากอันเกินความจำเป็น บางรายซื้อไอโฟนใหม่เอี่ยมมาแต่ก็ไม่ได้ใช้...ไม่กล้าเปิดเพราะกลัวเจ้าหนี้จะโทรเข้า...

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ28/10/54 15:17

    คิดว่าประเทศแม่ทอมถูกผลักเข้าไปสู่ระบบเศรษฐกิจทุนนิยมโดยที่ไม่มีความพร้อม..จะหวนกลับไปทำนาต้นทุนที่ทำไปกับข้าวที่ได้ไม่คุ้มกันเลยไหนจะค่าข้าวปลูกไหนจะค่าไถค่าดำค่าเก็บค่าปุ๋ยอีกจิปาถะ.สู้ซื้อข้าวสารถุงไม่ได้.ประหยัดกว่ากันเยอะใครที่ควบคุมตรงนี้ได้ก็ขึ้นสู่ยอดปิรมิด.ข้าวซีพี.ไก่ซีพี.หมูซีพี.ลูกชิ้นชีพี.เมล็ดผักซีพี..เซเว่นอีเลิบเว่นซีพี..ซีพีสนับสนุนขึ้นไปเลยค่าแรงขั้นต่ำวันละ 500บาทเพราะตัวเองควบคุมกลไกต่างๆไว้หมดแล้ว..แล้วถ้าไม่ทำงานโรงงานจะเอาที่ใหนมาซื้อข้าวตอนนี้จานก็เกือบ50บาทแล้ว.สังคมชนบทที่เห็นในอดีตจะถูกลบเลือนหายไป.แต่ภูมิใจที่เกิดทันในยุคนี้สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยดูก็ได้ดู..

    ตอบลบ